ที่
|
นักทฤษฎี
|
แนวคิด
|
ลำดับขั้น
|
กุญแจสำคัญ
|
การประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน
|
1
|
ซิกมันด์ ฟรอยด์
|
พัฒนาการตามวัย
|
แบ่งออกเป็น 5 ขั้น คือ
1. ขั้นปาก (Oral Stage)อายุ 0-8 เดือน
2. ขั้นทวารหนัก (Anal Stage)อายุ 18 เดือน – 3 ปี
3. ขั้นอวัยวะเพศ (Phallic Stage)อายุ 3-5 ปี
4. ขั้นแฝง (Latence Stage) อายุ 6-12 ปี
5. ขั้นสนใจเพศตรงข้าม (Genital Stage) อายุ 12 ปีขึ้นไป
|
ประสบการณ์ตั้งแต่เยาว์วัยจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของบุคคลในระยะต่อมา
เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับพัฒนาการการในช่วงอายุ 0-6 ปี
|
ในการจัดการเรียนการสอนนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้
วัยเด็กจะเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตอยู่ตอลดเวลาผู้สอนควรสอนให้เด็กอย่างละเอียดและควรชี้แนวทางการอบรมสั่งสอนสิ่งที่ถูกต้อง
|
2
|
อิริคสัน
|
พัฒนาการเกี่ยวกับบุคลิกภาพ
|
มี8 ขั้น
ขั้นที่1 อายุ 0-6 ปีความไว้วางใจ ความไม่ไว้วางใจ
ขั้นที่ 2 อายุ 2-3
ปีความเป็นตัวของตัวเองอย่างอิสระ – ความสงสัยไม่แน่ใจตัวเอง
ขั้นที่ 3 อายุ 3-5 ปี การเป็นผู้คิดริเริ่ม
– การรู้สึกผิด
ขั้นที่ 4 อายุ 6-12 ปีความต้องการที่จะทำกิจกรรมอยู่เสมอ
– ความรู้สึกด้อย
ขั้นที่ 5 อายุ 12-18 ปี
อัตภาพหรือการรู้จักว่าตนเองเป็นเอกลักษณ์ – การไม่รู้จักตนเองหรือ
|
วัยแรกของชีวิตนั้นจะเป็นรากฐานที่สำคัญและวัยต่อๆมานั้นก็จะมาจากรากฐานจากวัยนี้
นอกจากนี้ อิริคสันยังเน้นความสำคัญทางด้านสังคม
วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมด้านจิตใจ
|
ทฤษฎีพัฒนาการทางจิต สังคมของอีริคสันส่งผลให้วงการศึกษาตื่นตัวอย่างน้อยที่สุด
2 เรื่องคือ
สัมพันธภาพระหว่างบุคคลและการรับรู้เกี่ยวกับตนเอง
ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาแต่ละช่วงวัยของผู้เรียน
นอกจากนี้ครูที่นำขั้นพัฒนาการมาใช้เป็นแนวคิดพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้ก็จะสามารถช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีบุคลิกภาพหรือคุณลักษณะที่พึงประสงค์ได้
|
สับสนในบทบาทในสังคม
ขั้นที่ 6 ความใกล้ชิดผูกพัน – ความอ้างว้างตัวคนเดียว
วัยนี้เป็นวัยผู้ใหญ่ระยะต้น
ขั้นที่ 7 ความเป็นห่วงชนรุ่นหลัง – ความคิดถึงแต่ตนเอง
ขั้นที่ 8 ความพอใจในตนเอง – ความสิ้นหวังและความไม่พอใจในตนเอง
|
|||||
3
|
โรเบิรต์ เจ ฮาวิกเฮิร์ส
|
ทฤษฎีเกี่ยวกับงานพัฒนาการ
|
มี 6 ขั้น
1.
วัยเด็กเล็กหรือวัยเด็กตอนต้น อายุ 6-8 ปี
2.
วัยเด็กตอนกลาง อายุ 6-12 ปี
3.
วัยรุ่น อายุ 12-18 ปี
4.
วัยผู้ใหญ่ตอนต้น อายุ 18-35 ปี
5.
วัยกลางคน อายุ 35-60 ปี
6.
วัยชรา อายุ 60 ปีขึ้นไป
|
งานที่มนุษย์ทุกคนจะต้องทำตามวัยว่า “
งานพัฒนาการ
” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต
สัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัย
มีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป
|
โดยการสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์เพื่อสร้างความตั้งใจแก่ผู้เรียน เมื่อผู้เรียนเกิดความสนใจและตั้งใจที่จะเรียนแล้ว ผู้สอนก็แจ้งวัตถุประสงค์ในการเรียนให้แก่ผู้เรียน โดยพยายามเชื่อมโยงความรู้เดิมที่ได้เรียนมาก่อนหน้ากับความรู้ใหม่ให้เข้ากันได้ จากนั้นก็เสนอบทเรียนใหม่ มีการแนะนำชี้แนวทางในการเรียนเพื่อจะให้เกิดการเรียนรู้ สร้างกิจกรรมให้ผู้เรียนได้มีกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติจริงและแจ้งผลการปฏิบัติงานให้นักเรียนทราบเป็นระยะเพื่อเป็นการประเมิน
|
4
|
โคเบิร์ก
|
ทฤษฎีเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม
|
ออกเป็น 6 ขั้น โดยแบ่งออกเป็น 3
ระดับๆ ละ 2 ขั้น ดังนี้
ระดับที่ 1. ระดับก่อนเกณฑ์สังคม (pre conventional level อายุ 2-10 ปี
ขั้นที่ ๑ การถูกลงโทษและการเชื่อฟัง
ขั้นที่ ๒
กฎเกณฑ์เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของตน
ระดับที่ 2. ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม ช่วงอายุระหว่าง 10-20 ปี
ขั้นที่ ๓ ความคาดหวังและการยอมรับในสังคม
สำหรับ “เด็กดี”
ขั้นที่ ๔ กฎและระเบียบ
ระดับที่ 3. ระดับจริยธรรมเหนือกฎเกณฑ์สังคม
ขั้นที่5 สัญญาสังคมหรือหลักการทำตามคำมั่น ขั้นที่ 6 หลักการคุณธรรมสากล
|
โคลเบิร์ก
เชื่อว่าพัฒนาการทางจริยธรรมเป็นผลจากการพัฒนาการของโครงสร้างทางความคิดความเข้าใจเกี่ยวกับจริยธรรม
นอกจากนั้น โคลเบิร์ก ยังพบว่า
ส่วนมากการพัฒนาทางจริยธรรมของเด็กจะไม่ถึงขั้นสูงสุดในอายุ 10 ปี
แต่จะมีการพัฒนาขึ้นอีกหลายขั้นจากอายุ 11-25 ปี การใช้เหตุผลเพื่อการตัดสินใจที่จะเลือกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
จะแสดงให้เห็นถึงความเจริญของจิตใจของบุคคล การใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของสังคมใดสังคมหนึ่งโดยเฉพาะ
แต่เป็นการใช้เหตุผลที่ลึกซึ้งยากแก่การเข้าใจยิ่งขึ้นตามลำดับของวุฒิภาวะทางปัญญา
|
ทฤษฎี พัฒนาการทางจริยธรรมของโคห์ลเบิร์ก
ทำให้ผู้สอนรู้ว่าเด็กเล็กมีการตอบสนองข้อขัดแย้งในเรื่องจริยธรรม
แตกต่างจากเด็กโต
ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นั้นผู้สอนควรกระตุ้นให้เด็กได้สื่อแนวคิดนั้นๆออก
มาโดยสร้างบรรยากาศที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายได้อย่างอิสระ และใช้สถานการณ์ตัวอย่างหรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนมากระตุ้น
ให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีจริยธรรม
|
5
|
เพียเจต์
|
ทฤษฎีทางสติปัญญา
|
พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่าง
ๆ เป็นลำดับขั้น ดังนี้
-1 ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี
2 ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี แบ่งออกเป็นขั้นย่อยอีก 2 ขั้น คือ
-- ขั้นก่อนเกิดสังกัป
-- ขั้นการคิดแบบญาณหยั่งรู้
3 ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) ขั้นนี้จะเริ่มจากอายุ 7-11 ปี
4 ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) นี้จะเริ่มจากอายุ 11-15 ปี
|
พัฒนาการทางสติปัญญาเป็นผลมาจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสิ่งแวดล้อมโดยบุคคลพยายามปรับไห้อยู่ในภาวะสมดุลดัวยการใช้กระบวนการดูดซึมและกระบวนการปรับไห้เหมาะสมจนทำไห้เกิดการเรียนรู้โดยเริ่มจากการสัมผัสต่อมาจึงเกิดความคิดทางรูปธรรมและพัฒนาไปเรื่อยๆจนเกิดความคิดที่เป็นนามธรรมเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามลำดับขั้น
|
นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกันจึงไม่ควรเปรียบเทียบเด็กๆ
ควรไห้เด็กมีอีสระที่จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถของเด็กไปตามลำดับพัฒนาการของเด็ก
|
6
|
เจ โรม บรูเนอร์
|
พัฒนาการทางด้านความคิด
|
แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ
ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ
ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ
การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ
ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้
และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้
ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม
(Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้
|
กระบวนการเรียนรู้แบบ Discovery Learning Process เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นไห็ครูมีบทบาทเป็นกองนุนไห้ผู้เรียน
เป็นผู้ช่วยส่งเสริมให้โอกาศผู้เรียนแต่ละคนได้ฝึกฝนทักษะที่มีอยู่ในตนเองในการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆอย่างสม่ำเสมอเพื่อไห้ผู้เรียนเกิดทักษะในการเรียนรู้ตามแบบของตนเองประกอบไปด้วย 7 ส
สงสัย สังเกต สัมผัส สำรวจ สืบค้น สั่งสม สรุปผล
|
-กระบวนการค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีมีความหมายสำหรับผู้เรียน
-การวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องทำก่อนการสอน
|
ทฤษฎีพัฒนาการ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)